นายเจ๊ะอับดุลลา หลังปูเต๊ะ : รัฐมนตรีคนที่ ๒ ของสตูล

รายละเอียด

	นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะ เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๓ณ บ้านทำเนียบตำบลโกตาอำเภอละงูบิดาชื่อนายเจ๊ะมูฮำมัดสะอาดมารดาชื่อนางเจ๊ะรอมะห์นามสกุลเดิม หวันสู นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะได้ศึกษาภาษามลายูจนสำเร็จชั้นปีที่ ๓บริบูรณ์มีความรู้ด้านภาษามลายูในขั้นดีนอกจากนั้นนายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะยังสนใจภาษาไทยเป็นอย่างมากจึงอุตสาหะเรียนรู้ ด้วยตนเองจนมีความสามารถอ่านออกเขียนได้ระดับคล่องแคล่วทีเดียว เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ขณะอายุ ๑๕ ปีนายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะ เข้ารับราชการเป็นเสมียนศาลแขวงละงู แต่รับราชการเพียงปีเศษก็ขอลาออกเพื่อไปประกอบอาชีพค้าขายส่วนตัว ปี พ.ศ. ๒๔๕๙ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านศาสนาประจําอําเภอทุ่งหว้าและกิ่งอําเภอละงูอยู่ที่บ้านปากบารา  ปี พ.ศ. ๒๔๖๓ เดินทางไปทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียจนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๖๙ จึงเดินทางกลับประเทศไทยพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ผู้ว่าราชการสตูลในขณะนั้น แต่งตั้งให้เป็นกอฎีทั่วไปทำหน้าที่ด้านกฎหมายครอบครัวอิสลามล่วงมาปี พ.ศ. ๒๔๗๓ ก็มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นดาโต๊ะยุติธรรมประจำศาลจังหวัดสตูล
	นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะ หันเหชีวิตสู่การเมืองเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๙ และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูลเป็นครั้งแรกหากต่อมาวันที่ ๘พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๐ เกิดรัฐประหาร สภาผู้แทนราษฎรจึงถูกยุบครั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๑มีการเลือกตั้ง นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะก็ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งที่ ๒ครั้งนี้ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๙๕ นายเจ๊ะอับดุลลา หลังปูเต๊ะ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูลสมัยที่ ๓ และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 
	กล่าวได้ว่า นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะ ประสบความสำเร็จทางด้านการเมืองประชาชนจังหวัดสตูลไว้วางใจเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึง ๓ สมัยเข้าร่วมรัฐบาลฐานะรัฐมนตรี ๒ ครั้งเป็นนักการเมืองจากจังหวัดสตูลคนที่ ๒ ที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีทำให้คนทั้งประเทศรู้จักจังหวัดสตูลมากยิ่งขึ้น 
นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะมีผลงานอีกมากมาย เช่น เป็นกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการนิติบัญญัติประจำกระทรวงยุติธรรมมีส่วนร่วมพิจารณากฎหมายครอบครัวมรดกตามหลักอิสลามที่ประกาศใช้ใน๔จังหวัดชายแดนภาคใต้ 
	นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะได้ชื่อว่าเป็นผู้รอบรู้ หรือปราชญ์คนหนึ่งมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ศาสนาอิสลามและภาษามลายูได้แต่งหนังสือไว้หลายเล่มคนรุ่นหลังใช้ศึกษาอ้างอิง เป็นประโยชน์ต่อวงการศึกษามากมายเช่นเรื่องประวัติจังหวัดสตูลอาณาจักรศรีวิชัยกระจกไม่มีเงา เป็นอาทิ
	ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ทางจังหวัดสตูล จะทำการรื้อถอนมัสยิดมำบังหลังเก่าหรือมัสยิดฮากีบี หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า มัสยิดเตองะห์ ซึ่งสร้างขึ้นสมัยตนกูมูฮำมัดอาเก็บเป็นเจ้าเมือง โบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดอายุนับถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๗ก็กว่า ๑๒๐ ปีเพื่อก่อสร้างมัสยิดมำบังหลังใหม่ นายเจ๊ะอับดุลลา หลังปูเต๊ะ คัดค้านเพื่ออนุรักษ์มัสยิดหลังเก่าไว้ไม่ต้องการให้ราชการทำลายโบราณสถานของคู่บ้านคู่เมืองเจตนาให้หาที่ดินแปลงใหม่ก่อสร้างมัสยิดท่านจึงยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดสตูลปรากฏว่าศาลยกฟ้องให้ทางราชการดำเนินการก่อสร้างมัสยิดหลังใหม่ได้นั่นเป็นประวัติศาสตร์เมืองสตูลฉากหนึ่งที่น่าศึกษายิ่ง
	นายเจ๊ะอับดุลลาหลังปูเต๊ะ ถึงแก่กรรมด้วยโรคชราเมื่อวันที่๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๙รวมอายุ ๙๖ ปี