เส้นทางท่องเที่ยว ::เที่ยวจะบังติกอ


1. โรงแรมเรนโบว์แมนชั่น

ตำบลสะบารัง อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

ย่างเท้าก้าวเข้าสู่ เรนโบว์ แมนชั่น (Rainbow Mansion) เป็นอันสะดุดกับสีสันของแมนชั่นนี้ทันที ก็ด้วยสีที่สาดรอบแมนชั่นแบ่งเป็นสีสันดั่งรุ้งเจ็ดสี มองแล้วรู้สึกสดชื่น บวกกับบรรยากาศโดยรอบที่สร้างความชุ่มช่ำทั้งสระว่ายน้ำที่สะอาดตา ร้านอาหารบรรยากาศน่านั่ง ลมพัดเอื่อยๆเย็นสบาย มองแม่น้ำปัตตานีที่ไหลรินตัดขอบด้วยท้องฟ้าที่สดใส โรแมนติกบวกกับความเก๋ไก๋เข้ากันมากทีเดียวค่ะ และที่นี่ยังมีจักรยานไว้ให้บริการแก่ผู้เข้าพักได้ปั่นทอดนั่งชมเมืองปัตตานีแบบฟรีๆ หรืออยากจะขยับร่างกายเบาๆก็มีฟิตเนสให้บริการด้วย

2. ชุมชนจะบังติกอ

ตำบลจะบังติกอ อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

ชุมชนจะบังติกอ เคยเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางการปกครองท้องถิ่น โดยเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าเมืองปัตตานีในสมัยพุทธศักราช 2388 – 2445 หรือเรียกว่า วังเก่าจะบังติกอ และเป็นศูนย์กลางท้องถิ่นที่อยู่อาศัยของเจ้าเมือง ชนชั้นสูง จึงทำให้เกิดการผลิตเครื่องเรือน เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มีความสวยงาม ฉะนั้นได้เริ่มมีการผลิตเครื่องทองเหลืองให้แก่ชนชั้นสูง เจ้านาย เจ้าเมืองที่อยู่ในวังใช้เป็นเวลานาน โดยมีช่างฝีมือดีจำนวนมากมารวมตัวอยู่ที่นี่ วัง (เก่า) จะบังติกอจึงเปรียบเสมือนแหล่งผลิตเครื่องทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น

3. ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว

ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี

ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ตั้งอยู่เลขที่ 63 ถนนอาเนาะรู ตำบลอาเนาะรู เป็นศาลที่ประดิษฐานรูปแกะสลักของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พระหมอ เจ้าแม่ทับทิม ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประเพณีแห่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวไปตามถนนสายต่าง ๆ ภายในตัวเมืองปัตตานีทำพิธีลุยไฟบริเวณหน้าศาลเจ้าเล่งจูเกียง ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำตานีบริเวณสะพานเดชานุชิต ในงานนี้มีผู้ที่เคารพศรัทธามาร่วมงานเป็นจำนวนมากทุกปี

4. หอนาฬิกาสามวัฒนธรรม

ตำบลสะบารัง อำเภอสะบารัง จังหวัดปัตตานี

หอนาฬิกาสามวัฒนธรรม ตั้งเด่นเห็นเป็นตระหง่านตรงข้ามศาลหลักเมืองจังหวัดปัตตานี ตัวโครงสร้างบ่งบอกถึงความเป็นพหุวัฒนธรรมของเมืองปัตตานี ที่ประกอบไปด้วยชาวไทยมุสลิม ชาวไทยพุทธและชาวไทยเชื้อสายจีน ตัวหอนาฬิกาแสดงถึงลักษณะศิลปวัฒนธรรมทางสถาปัตย์ของทั้ง 3 วัฒนธรรมของเมืองปัตตานีได้อย่างชัดเจน