ขนมตาล และตาล

บรรยายนำชม

การทำขนมตาลมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีแป้งข้าวเจ้าสำเร็จรูป และผงฟู (Baking Powder) สมัยนั้นมีการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ขนมได้หลากหลาย โดยเฉพาะการทำขนมตาลที่มีขั้นตอนที่ซับซ้อน และยุ่งยาก คนในชุมชนจะนิยมเก็บผลตาลสุกในเวลาเช้าตรู่ จะได้ผลตาลสุกที่สดใหม่ ปราศจากการรบกวนของแมลง เมื่อกดที่ผิวตาลจะนิ่ม ผิวสีดำ และมีกลิ่นหอมแรง จึงจะใช้ทำขนมตาลได้ การเตรียมผลตาล นำตาลสุกมาล้างน้ำให้สะอาด ดึงเปลือกตาลออกให้หมด แล้วฉีกพูตาลให้แต่ละเต้าแยกออกจากกัน หลังจากนนั้นให้ดึงแกนกลางที่เป็นเส้นสีดำแข็งๆออก เรียกว่า ดีตาล เพราะส่วนนั้นจะทำให้เนื้อตาลมีรสขม การยีตาล มีลักษณะคล้ายกับการซักผ้าด้วยด้วยมือ โดยจะนำผลตาลสุกที่ปลอกเปลือกแล้ว มายีกับน้ำสะอาด ผลตาลจะมีผิวสีขาวถ้าเนื้อตาลหลุดออกหมดแล้ว เมื่อได้เนื้อตาลที่ผสมน้ำมาแล้วจะนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเส้นใยที่หลุดมาจากผลตาลออก แล้วนำเนื้อตาลที่สะอาดมาให้ถุงผ้าด้ายดิบโยงให้สะเด็ดน้ำ ใช้เวลาประมาณ 1 คืน จึงจะได้เนื้อตาลที่คงเหลือประมาณ 10 % การทำแป้งขนมตาล จะเป็นแป้งข้าวเจ้ามาผสมกับเนื้อตาล ปรุงรสด้วยน้ำตาล ในสมัยโบราณนิยมใช้แป้งข้าวจ้าวบดด้วยโม่หิน แต่ปัจจุบันจะใช้แป้งข้าวเจ้าสำเร็จรูป จากนั้นนวดส่วนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ดั้งเดิมที่ยังไม่มีผงฟู (Baking Powder) นั้น จะนำเนื้อตาลที่ผสมแล้วไปตากแดด ขนมตาลที่ได้จึงมีเนื้อที่ฟูและนิ่ม จากนั้นจะนำมาผสมกับน้ำกะทิ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่เหลวจนเกินไป จากนั้นจะนำไปใส่ถ้วยตะไล หรือห่อด้วยใบตอง หรือใส่กระทงใบตอง เพื่อเตรียมการนึ่ง ก่อนจะเริ่มนึ่งให้โรยมะพร้าวขูดฝอยที่ผสมเกลือเล็กน้อย ใช้เวลานึ่งประมาณ 1ชม. ก็จะได้ขนมตาลที่แสนอร่อย