แกงหน่อไม้ส้ม เป็นเมนูที่ชาวไทยเบิ้งแทบทุกครัวเรือนนิยมกิน หากเหมือด(ผสม)ด้วยปลากด ที่มีเนื้อนุ่ม รสชาติมัน ก็จะยิ่งทำให้รสชาติดียิ่งขึ้น เครื่องแกงเผ็ดใส่ข้าวเบือเพิ่มเล็กน้อย เพื่อให้ของรสน้ำแกงมีความเข้มข้นมากขึ้น
ชาวไทยเบิ้งมัก ขึ้นภูเขาไปขุดหาหน่อไม้ในป่า แกงหน่อไม้จะใช้น้ำยอดนางคั้นเข้มข้น และใช้เครื่องแกงเผ็ดสูตรเด็ดของชาวไทยเบิ้งเป็นส่วนผสม ปรุงเค็มด้วยน้ำปลาร้า บ้างโอกาสมักเหมือด(ผสม) กับผักชนิดอื่นด้วย เช่น แกงเหมือดกับชะอม แกงเหมือดเห็ดป่า หรือจะเหมือด
การเตรียมใบค้อ เป็นขั้นตอนสำคัญในการทำฝาเรือนที่เรียกว่า “ฝาค้อ” ขั้นตอนคือการเลือกและตัดใบค้อที่แก่จัด ทำความสะอาด ฉีกออกเป็นใบให้มีขนาดพอดีกับการประกอบเข้าเป็นฝาเรือน
“เต้าปูน” ทำจากโลหะชนิดต่าง ๆ ตามฐานะ เช่น ทองดอกบวบ ทองเหลือง เป็นต้น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ใส่ปูนแดงกินหมาก
“ขี้ผึ้งสีปาก” ใช้ทางปากเหมาะกับผู้ที่กินหมาก ทำจาก กะทิที่ได้จากเนื้อมะพร้าวสดหรือเนื้อมะพร้าวเสียก็ได้ และขี้ผึ้งแท้ (ทำจากรังผึ้งที่ไม่มีตัวผึ้งแล้วนำมาต้มจนรังผึ้งละลายและเทใส่ภาชนะรอให้ขี้ผึ้งแข็งตัวและนำมาใช้) นำกะทิใส่ถ้วยตราไก่
การทำฝาค้อประกอบไปด้วย โครงไม้ไผ่สี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับฝาบ้านและกรุด้วยฟากด้านใน ทับด้วยใบค้อ และขัดทับใบค้อด้วยไม้ไผ่ด้านนอกอีกชั้น
ต้มปลาย่างใบมะขามอ่อน เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวไทยเบิ้ง บ้านโคกสลุงที่สืบทอดกันมานาน เป็นภูมิปัญญาด้านการอาหารอย่างหนึ่งของชาวไทยเบิ้ง วิธีการทำแสนง่ายดายดังนี้ เตรียมเครื่องต้มใส่หม้อตั้งไฟ ประกอบไปด้วย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง กระเทียม และกระชาย
พวงกุญแจดอกทิวลิป ใช้เทคนิคการเย็บมือโดยใช้ผ้าขาวม้าเป็นวัสดุหลัก เนื่องจากผ้าขาวม้าบางส่วนได้นำไปตัดเย็บเสื้อผ้า หรือของใช้ชิ้นใหญ่ต่างๆ ผ้าผืนเล็กจึงเหมาะสำหรับงานชิ้นเล็ก เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ขนมเบื้อง แต่เดิมเรียกว่า ขนมคนจน เนื่องจากมีส่วนผสมที่น้อย คือ ข้าวสารที่นำไปโม่ ผสมน้ำ เกลือ ปัจจุบันได้ถูกปรับสูตรจนขนมหวานที่ได้รสชาติเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ด้วยการใส่ ไข่ไก่ กะทิ น้ำตาล และเพิ่มสีสันด้วยใบเตยหรือดอกอัญชัน เมื่อผสมได้ที่แล้วจึง
ผลิตจากใบลานแห้งสานเป็นของเล่นปู ขนาดเล็ก ปูบอกเล่าถึงวิถีการกินของคนที่นี่ ในช่วงฤดูหลังเก็บเกี่ยวข้าว คนที่นี่ นิยมพากันขุดปูในนา เพื่อนำมาทำอาหารรสเลิศ อย่าง หลนปู เป็นต้น
“ไข่น้ำ” พืชน้ำขนาดเล็กลอยบนผิวน้ำบริเวณน้ำนิ่งและสะอาด มีลักษณะกลมคล้ายไข่ปลา ชาวไทยเบิ้ง บ้านโคกสลุงรู้จักนำไข่น้ำมาทำอาหารตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย โดยนำมาทำแกงไข่น้ำ การที่มีไข่น้ำให้ซ้อนมาทำอาหารได้จึงบ่งบอกว่
“สับฟาก” ใช้ไม้ไผ่แก่จัดลำใหญ่เฉาะตามยาวบริเวณข้อของไม้ไผ่ตลอดทั้งลำที่ตัดไว้ หลังจากนั้นจึงผ่าเพียงด้านเดียวและคลี่ออกเป็นแผ่น และถากเนื้อไผ่ด้านในที่อ่อนออกเพื่อความสวยงามและความแข็งแรงในขณะเดียวกันก็เป็นการกำจัดเนื้อไผ่ที่สามารถเป็น
“ต่างหู” ทำจากใบลานแห้งสานย่อส่วนหมอนให้มีขนาดเล็กลง ประดับด้วยลูกปัดหลากสี เพิ่มความน่ารัก
ผ้าขาวม้า ตาสอนลอน เป็นการออกแบบลวดลายเรียงต่อกันเป็นคู่ โดยมีคิ้วผ่ากลาง มีขนาดของตาที่แคบ ทำเป็น 2 ช่อง ซ้ำกันตลอดทั้งผืน
“กระเตง” สานจากไม้ไผ่มีลักษณะคล้ายกระบุงแต่มีหูหิ้ว หูหิ้วนิยมทำจากหวายเพื่อความแข็งแรง ใช้ใส่ของเพื่อไปทำพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ ที่วัด