เป็นขนมชนิดที่จะนำข้าวเหนียวปั้นเป็นชิ้นแล้วนำไปต้ม ราดด้วยน้ำเชื่อม โรยมะพร้าวคลุกเกลือ มีลักษณะคล้ายขนมเหนียวของไทย
ถือว่าเป็นขนมชนิดหนึ่งที่ถือว่ามีเอกลักษณ์และพบได้แค่ที่มัสยิดยะวากับมัสยิด อินโดนีเซีย ข้าวเหนียวหน้าเขียว เป็นขนมที่ทํามาจากการนําข้าวเหนียวผสมกะทิมานึ่งเมื่อสุกแล้วก็จะนํามากดลงใส่ในถาดหลังจากนั้นก็จะทําการใส่หน้าชั้นขนมที่ทํามาจากไข่ น้ําตาล น้ําใบเตย โดยน้ําใบเตยต้องเป็นน้ํา ใบเตยที่สกัดสดเท่านั้นเพื่อให้มีกลิ่นละรสชาติของใบเตยที่ชัดเจน ลักษณะจะมีความคล้ายกับสังขยาใบเตย
มีลักษณะคล้ายขนมครกสิงคโปร์แต่มีขนาดใหญ่กว่า หาทานค่อนข้างยากในปัจจุบัน เนื่องจากคนรุ่นใหม่อาจจะเปลี่ยนรสนิยมไปทานขนมอื่นๆมากกว่า จึงทำให้เราหากินขนมชนิดนี้ได้เป็นบางโอกาสเท่านั้นด้วยความที่มันมีเอกลักษณ์ มีสูตรที่สืบทอดกันมายาวนาน เริ่มจากการนำใบเตยมาปั่น จากนั้นกรองออกเอาแต่น้ำสีเขียวซึ่งให้ผสมในแป้ง เอกลักษณ์ของจอร้อต้องสีเขียวอ่อน ส่วนตัวแป้งนั้นทำจากแป้งสาลี ไข่ เนยกะทิ นมข้นหวาน น้ำตาล มาผสมกันจนเข้ากันดี ปัจจุบันการดัดแปลงใส่ไส้หรือโรยหน้าต่างๆ ด้วย ส่วนจอร้อในชุมชนยะวาเมืองไทย ดูเหมือนว่ายังคงมีความเดิมๆ อยู่ตามสูตรที่บรรพบุรุษของชาวยะวาได้สืบสายกันมา
แม่พิมพ์ขนมคล้ายๆ พิมพ์ขนมไข่ของไทย แต่รูปทรงและลายบนพิมพ์จะไม่เหมือน เป็นของดั้งเดิมทำจากเหล็ก เมื่อก่อนไม่มีขายในประเทศไทยต้องนำเข้าจากยะวา ส่วนการเผาขนมจอร้อด้วยเตาแก๊สต้องใช้ไฟอ่อน ถ้ากรรมวิธีแต่ก่อนนั้นต้องใช้เตาถ่านและใช้ไฟบนและไฟล่าง
เป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองมาจากเกาะชวา เป็นอาหารประเภทตุ๋น โดยการนำปลาไปทอดและนำน้ำมันที่ทอดปลาไปทอดผักสมุนไพรที่ให้กลิ่นหอม ได้แก่ หัวหอมใหญ่ พริกชี้ฟ้า กระเทียม ให้กลิ่นหอมด้วยอบเชยปรุงรสด้วยซีอิ้วดำ น้ำตาลมะพร้าว เกลือ เติมน้ำเล็กน้อยและนำปลาที่ทอดไว้ลงไปตุ๋น
หนึ่งในอาหารของสำรับอัมเบิ้ง เป็นอาหารประเภททอด โดยใช้มันบดผสมเนื้อสัตว์ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย สิ่งที่สำคัญก็คือหอมเจียวบดลงไปด้วย ปั้นให้พอดีคำนำไปชุบไข่และก่อนนำไปทอด
เป็นอาหารจานเดี่ยว สะดวกต่อการรับประทาน โดยมีการใช้ผักสมุนไพรเป็นเครื่องผัดคือ หัวหอมแดง กระเทียม พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู นำไปคั่วหรือเผา และนำมาโขกรวมกัน หลังจากนั้นจึงนำข้าวลงมาผัดกับเครื่องที่เตรียมไว้ ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำปลา ส่วนเนื้อสัตว์สามารถเลือกใส่ได้ตามผู้บริโภค เช่น กุ้ง ไก่ เนื้อ ปลา
อาหารประเภทน้ำพริก เครื่องจิ้ม โดยตัวของน้ำพริกทำจากผักสมุนไพร เช่น หัวหอมแดง กะเทียม พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู ที่ผ่านการคั่วหรือเผา นำมาโขกรวมกันแล้วใส่กะทิลงไปผสมโดยใช้เครื่องเทศที่เรียกว่าเปราะเพื่อให้กลิ่นหอมเป็นหลัก ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะขามเปียก นิยมนำมาทานกับ มะเขือยาวเผา ปลาโอย่าง ปลาดุกย่าง ไข่ดาว เป็นต้น
หนึ่งในอาหารที่อยู่ในสำรับอัมเบิ้งภายใต้อาหารประเภทแกง โดยเป็นแกงกะทิที่ใส่ไก่ปรุงรสด้วยวิธีแบบพื้นบ้านของชวา ปรุงแต่งด้วยเครื่องแกงคือ ขมิ้น กระเทียม ตะไคร้ ลูกผัดชีป่น โขกรวมกัน เป็นเครื่องแกงและนำไปละลายในกะทิ โดยอาหารชนิดนี้ นิยมใช้ไก่เป็นหลัก ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว เกลือ ซึ่งมีการให้ความเปรี้ยวที่หลากหลาย บ้างก็ใช้มะขามเปียก มะดัน หรือตะลิงปิงแล้วแต่ความสะดวก ปิดท้ายด้วยการใส่กะหล่ำปลี
เมนูที่หาทานได้ยากและเป็นหนึ่งในอาหารที่อยู่ในสำหรับอัมเบิ้ง โดยสลุนแด๊งเป็นอาหารประเภทคั่วโดยการนำมะพร้าวขูดมาคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงรสอย่างน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก เกลือ (บางสูตรใส่เนื้อสัตว์ เนื้อวัว) ให้ความหอมด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศจากข่า ใบมะกูด ขมิ้น หลังจากนั้นนำไปคั่วแห้งในกะทะด้วยความร้อนปานกลางอย่างสม่ำเสมอ โดยผ่านกระบวนการคั่วเป็นเวลานาน
เป็นหนึ่งในอาหารที่มาจากเกาะชวา เป็นหนึ่งในอาหารส่วนหนึ่งจากในสำรับ 7 ชนิด สมาคอแร๊งเป็นอาหารประเภทผัด ที่มีวัตถุดิบประเภทหลักเป็นถั่วฝักยาวและเต้าหู้ ผัดด้วยซอสปรุงรสที่ผ่านการทอดด้วยผักประเภทสมุนไพรที่ให้ความหอม เช่น หัวหอมแดง กระเทียม พริกชี้ฟ้า และการทอดของเนื้อสัตว์ เครื่องใน และ กุ้ง ได้มาซึ่งน้ำมันที่มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะจึงทำให้เกิดความกลมกล่อมที่มาจากการทอดวัตถุดิบต่างๆก่อนหน้าและความหอมที่ได้จากการผัดกะปิและข่าสับ ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะสำหรับผัดสมอคอแร็ง ปรุงรสชาติด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก เกลือ น้ำปลา เคี่ยวทุกอย่างรวมกันจนกลายมาเป็นซอสที่ชุ่มฉ่ำ ปิดท้ายด้วยการนำผักสดลงมาคลุกเค้าให้เข้ากันกับซอส รสชาติคล้ายๆผัดเปรี้ยวหวาน