จ่าสิบตรีมนัส ติคำ

รายละเอียด

  

เป็นปฐมบทของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น 




เตาโบราณบ้านบ่อสวก เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญในอดีตของเมืองน่าน การค้นพบเตาโบราณ ภายในบ้านของจ่าสิบตรีมนัส ติคำ เป็นปฐมบทของการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น เมื่ออาจารย์สายันต์ ไพรชาญจิตร์ จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ามาช่วยขุดค้นและได้นำนักศึกษาเข้ามาทำงานในชุมชนภายใต้โครงการโบราณคดีชุมชน ก่อให้เกิดพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่นขึ้น พร้อมกับความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านบ่อสวกในการสร้างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้น

ภายในบริเวณบ้านของจ่าสิบตรีมนัสเป็นที่ตั้งของเตาเผาโบราณ 2 เตา ได้แก่ เตาสุนัน และเตาจ่าสิบตรีมนัส ติคำ ซึ่งเป็นเตาเผาโบราณ ลักษณะเป็นเตาดินก่อ ระบายความร้อนแนวเฉียง (Cross-draft Kiln with clay-slab structure) จากการขุดค้นเมื่อปี พ.ศ.2542 โดยโครงการโบราณคดีประเทศไทย (ภาคเหนือ) พบว่า เป็นเตาเผาภาชนะร่วมสมัยกับแหล่งเตาสังคโลกในเขตอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เตาสุนัน มีอายุประมาณ พ.ศ.2043 - 2103 ส่วนเตาจ่าสิบตรีมนัส อายุประมาณ พ.ศ.1772-1892 ด้วยความสำคัญของแหล่งโบราณคดีดังกล่าวจึงก่อให้เกิดความคิดอนุรักษ์แหล่งเตานี้ ด้วยการจัดสร้างหลังคาคลุมเตาเมื่อ พ.ศ.2543 พร้อมทั้งให้ข้อมูลทางวิชาการในแง่มุมต่างๆ โดยเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการใน พ.ศ.2544

นอกเหนือจากเตาเผาโบราณแล้ว ในส่วนของพิพิธภัณฑ์เฮือนบ้านสวกแสนชื่น เป็นเรือนไม้พื้นถิ่นใต้ถุนสูงเรือนเปิดโล่ง แสดงลักษณะการใช้พื้นที่ของอาคารในสภาพจริง ชั้นบนแบ่งเป็น ชานรับแขก ห้องนอน ห้องครัวไฟและห้องน้ำ มีตู้จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้และตัวอย่างภาชนะดินเผาที่ได้จากการขุดค้นที่แหล่งเตาสุนัน และเตาจ่าสิบตรีมนัส ติคำ พร้อมนิทรรศการว่าด้วยเตาโบราณและเครื่องปั้นดินเผาโบราณบ้านบ่อสวก ผนังด้านข้างนอกชานจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ภายในครัวเรือน เครื่องมือการเกษตรให้ได้ชมกัน อาทิ ฮางฝนยา ก๊อบแก๊บ บอกเมี่ยง แมวขูดมะพร้าว ตาชั่ง หน้าไม้ ตะเกียง ขันโตก นอกจากนี้ยังมีกี่ทอผ้าพร้อมผ้าที่ทอไว้เพื่อไว้ขายแก่ผู้สนใจของ อุ้ยชื่น สมาชิกอาวุโสในครอบครัวจ่ามนัส แม้จะสูงด้วยวัยแล้ว แต่อุ้ยชื่นยังกระฉับกระเฉง เป็นผู้นำชมที่สามารถอธิบายความรู้ด้านโบราณคดีเบื้องต้นและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยได้อย่างน่าสนุก




ขนาด

ปราชญ์ชุมชนด้านเรื่องประวัติศาสตร์ชุมชน